Friday, April 29, 2011

Grace Kelly..eternal beauty Princess...

  เกาะกระแส....วันเษกสมรส ฝรั่งจัดอันดับให้ ปริ้นเซสเคท เป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก อันดับสองคือ ราชินีราเนีย แห่งจอร์แดน ส่วนอันดับหนึ่งคือ ราชินี เกรซ เคลลี่ แห่งโมนาโก (ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนบ้างเพราะเขียนจากความจำ ที่เคยอ่านจากหนังสือเล่มนึง)
    Grace Kelly พระองค์เป็นดาวค้างฟ้าอย่างแท้จริง ทรงเป็นทั้ง Princess ในโลกมายาอย่างฮอลลีวู้ด และเป็นทั้ง Princess ในโลกแห่งความจริง มีประวัติชีวิตที่เริ่มจากการเป็นสามัญชน ครอบครัวเป็นสามัญชนเศรษฐีอเมริกา รัฐเพนซิลวาเนีย พอโตมาก็เข้าโรงเรียนการแสดง และก็เริ่มแสดงหนัง แสดงกับดาราชายชื่อดังในสมันนั้นอย่าง แกรี่ คูเปอร์ และคลากเกเบิ้ล จนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ต่อมาได้รับเชิญไปงานเลี้ยงที่เมืองคานส์และได้พบ และเต้นรำกับ เจ้าชายเรนีเย์ แห่งโมนาโก เจ้าชายหนุ่มหล่อโสด ผู้เป็นที่หมายตาของสาวๆยุคนั้น(ว่ากันว่า มาริลีน มอนโรเป็นหนึ่งในนั้น) เจ้าชายตกหลุกรักเกรซทันที และคบหากันอยู่ราว 6 เดือนก็จัดงานอภิเษกสมรส) เรื่องราวก็คงจะจบอย่างเลิศหรู ดูเป็นเทพนิยาย Happily ever after แต่เพียงเท่านั้น หากว่าความจริงแล้ว ในชีวิตของราชินีเกรซที่สวยงามอย่างที่สุดอย่างที่ผู้หญิงทั้งโลกใฝ่ฝัน ก็โศรกเศร้าอย่างที่สุดด้วย.....




  ที่บอกว่าน่าเศร้าจนทำให้สะเทือนใจจนสามารถเมมข้อมูลไว้ในสมองได้ ถึงจะอ่านมาแล้วหลายปีคือ
เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก เกรซเป็นเด็กขี้โรค เก็บตัว ไม่ค่อยร่าเริง เหมือนพี่น้องคนอื่นที่เป็นนักกีฬา พ่อของเกรซเรียกได้ว่าเหมือนจะรักลูกคนนี้น้อยที่สุด แถมในครอบครัวยังมีการเลี้ยงดูแบบวินัยเข้มงวด พอเกรซโตมาก็ถูกคุมทุกกระเบียดนิ้ว โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ (จำดีเทลไม่ค่อยได้) ขนาดที่ตอนแสดงหนังมีข่าวกับดาราชายคนไหน ต้องถูกที่บ้านขัดขวาง ตามคุมตลอด ตลอดชีวิตเกรซต้องการมากที่สุดคือให้พ่อยอมรับในตัวเธอ จนเธอทำสำเร็จตอนที่ได้แต่งงานกับเจ้าชาย พ่อเธอให้เงินก้อนใหญ่เป็นของขวัญ      แต่งงานของเกรซ ถึงขนาดนั้นพ่อของเธอยังกล่าววันแต่งว่า เขาไม่คิดว่าลูกคนนี้จะได้ดีขนาดนี้ เขานึกว่าจะเป็นพี่สาวคนโตที่เป็นเด็กร่าเริง เก่งกีฬา เสียอีก (รู้สึกพี่สาวจะชื่อเพ็กกี้ ถ้าจำไม่ผิด ส่วนเรื่องรายละเอียดคำพูดอาจคลาดเคลื่อนไปมั่งนะแต่ประมาณนี้ละ)


 
   หลังแต่งงาน จากที่เคยมีชีวิตอิสระที่อเมริกา เจ้าหญิงเกรซต้องเข้าไปอยู่ในกฏระเบียบของ
ราชวงศ์ เหมือนกับชีวิตวัยเด็ก กอปรกับปัญหาในชีวิตสมรสอีกหลายอย่าง เช่นอายุที่ต่างกันมากกับพระสวามี ทำให้พระองค์กลายเป็นคนเก็บตัว เงียบขรึม อยู่กับการวาดรูป จนในที่สุดก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีพระ ธิดาประทับมาด้วย ที่แถบชายฝั่งริเวียราสิ้นพระชมน์ แต่ชื่อของพระองค์ก็ยังเป็นดาวค้างฟ้า เป็นแบบฉบับแห่งเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แม้ว่าในความงามนั้นจะมีความเศร้าแฝงเจืออยู่ด้วยเสมอ........(โอย พิมพ์เหนื่อย  ข้อมูลอาจผิดไปบ้างแต่คิดว่าจำแม่นอยู่น้า ^^)













 

Tuesday, April 26, 2011

All About Happiness

Everybody wants happiness, nobody wants pain but you can't have a rainbow without rain.(ไม่ทราบที่มา) "ใครๆก็อยากได้แต่ความสุข ไม่มีใครอยากจะเจ็บปวด แต่รู้อะไรมั้ย คุณไม่มีทางได้เห็นสายรุ้งโดยปราศจากฝนพรำเสียก่อนหรอก"


Happy girls are the prettiest --Audrey Hepburn "สาวที่สวยที่สุดคือคนที่มีความสุขกับชีวิตไงล่ะ"


Being happy doesn't means that everything is perfect. it means that you've decided to look beyond the imperfections "การจะมีความสุขได้ไม่ได้แปลว่าทุกสิ่งจะต้องสมบูรณ์แบบ แต่มันหมายถึงการที่คุณได้ตกลงใจแล้วว่าจะมองข้ามความไม่สมบูรณ์แบบนั้น"

Happiness begins at the point of acceptance. The point when we stop questioning why sometimes things are unfair. ความสุขเริ่มต้นที่การยอมรับ เมื่อเราเลิกตั้งคำถามเสียทีว่าทำไม ชีวิตถึงไม่ยุติธรรม





The happiest people do not necessarily have the best things, they just simply appreciate the things they have.
คนที่มีความสุขที่สุดไม่จำเป็นต้องมีสิ่งที่ดีที่สุด เขาจะมีความสุขอย่างเรียบง่ายกับสิ่งที่เขามี



People take different roads to fulfillment and happiness. Just because they’re not on your road doesn’t mean that they’ve gotten lost.-H. Jackson Brown           
คนแต่ละคนต่างก็มีเส้นทางที่แตกต่างในการเติมเต็มตัวตนและสร้างสุข แค่เพียงเค้าไม่ได้อยู่ในเส้นทางเดียวกับคุณ ไม่ได้แปลว่าเค้าหลงทางสักหน่อย...

Always be Happy, always wear a smile,not because life is full of reasons to smile, but because your smile itself is a reason for others to smile :) "จงมีความสุขเสมอ เพราะการมีรอยยิ้มบนหน้า ไม่ได้เป็นเพราะชีวิตเต็มไปด้วยเหตุผลที่ให้เรายิ้ม แต่เพราะยิ้มของคุณจะเป็นเหตุผลให้ผู้อื่นพลอยยิ้มไปด้วย"(นิรนาม)

There are five things a person needs to be happy: some work, some food, some friends, some fun, and someone. "ความสุขห้าสิ่งที่ปุถุชนต้องการ มีงานทำ มีอาหาร มีเพื่อน มีความสำราญใจ และมีใครสักคน"(นิรนาม)



Never regret a day in your life, “good day gives you joy while bad day gives you experience”. Both are important for a successful life.. (Anonymous) "อย่าไปนั่งเสียใจกับวันที่ผ่านๆมาในชีวิต วันดีดีมอบความสุข ในขณะที่ วันแย่ๆมอบประสบการณ์ ทั้งสองวันสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในชีวิต"(นิรนาม)




The reason people find it so hard to be happy is that they always see the past better than it was, the present worse than it is, and the future less resolved than it will be.(Anonymous)  "เหตุผลที่ทำไมคนเราถึงหาความสุขได้ยากนัก เพราะเรามัวแต่เห็นอดีตดีกว่าปัจจุบัน เห็นปัจจุบันเลวร้ายกว่าที่เป็น และเห็นอนาคตว่าไม่อาจแก้ไขอะไรได้ทั้งๆที่จริงมันแก้ได้"(นิรนาม)



Your life is a book; don’t jump to the end to see if it’s worth it. Just enjoy life and fill those pages with beautiful memories.(Anonymous) "ชีวิตเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ต้องรีบข้ามไปอ่านบทสรุปว่ามันดีแค่ไหน แต่จงมีความสุขกับชีวิต และเติมเต็มแต่ละหน้าด้วยความทรงจำที่สวยงาม"(นิรนาม)

There are many great options in life but you don’t have to PICK what seems to be the BEST, Just pick what makes you HAPPY and you will realize that you have made the best choice.



Never reject anybody in your life. Remember: “Good people give you happiness & bad people give you experience.”-BarRafaeIi
"อย่าได้ปฏิเสธใครในชีวิต คนดีให้ความสุข คนเลวให้ประสบการณ์"

“Never search your happiness in others which will only make you feel alone. Search it in yourself and you’ll be happy even if you are left alone.”(Anonymous)  "อย่ามองหาความสุขของตนเองจากผู้อื่น มันรังแต่จะทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว จงมองหาในตัวของคุณเอง แล้วคุณจะมีความสุขแม้จะต้องอยู่เพียงลำพัง"(นิรนาม)

Friday, April 22, 2011

เพียงชายคนนี้....ไม่ใช่ผู้วิเศษ

   เรื่องมันเริ่มจาก บทตัดตอน เล็กๆจากนิยายแปล อันดับหนึ่งในหัวใจ "The Notebook"  ที่หยิบมานั่งแปลเล่น คิดว่าต้นฉบับของ คุณจิระนันท์คงไพเราะกว่านี้ เราไม่อาจเทียบได้หรอก แต่ก็ลองแปลดู มันเกิดอาการอินจัด และพาลคิดถึงเพลงนี้ขึ้นมา เพราะมันช่างตรงกันได้เหมาะเจาะจริงๆ

  

    "I am nothing special, of this I am sure. I am a common man with common thoughts and I’ve led a common life. There are no monuments dedicated to me and my name will soon be forgotten, but I’ve loved another with all my heart and soul, and to me, this has always been enough.." -The Notebook
    

  "ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ ผมแน่ใจ ผมเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีความคิดธรรมดา และก็ใช้ชีวิตสามัญ ไม่มีอนุสาวรีย์ใดสร้างอุทิศให้แด่ผม ชื่อของผมอีกไม่นานก็คงถูกลืม แต่ผมมีทั้งวิญญาณและหัวใจไว้เพื่อรัก  และสำหรับผมแล้ว เพียงแค่นี้มันก็เกินพอ" (translate Thai by Kwanparadox)

  อูยอ่านแล้วจี๊ดดดดด...............โรแมนติกลงตับ 5555

  เข้ากั๊น...เข้ากัน มั้ยล่ะ กับหนึ่งในเพลงโปรด...เพลงนี้





เนื้อเพลง เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)

ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกปราสาทงามให้เธอ
ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีราชรถเลิศเลอ
แต่ฉันมีใจพิเศษ จะพาเธอผ่าน คืนนี้ไป
ฉันเป็น เพียงผู้ชาย คนนี้ที่มีใจมั่นรักเธอ
โอบกอดฉันไว้ หลับตาผ่อนคลาย ให้สมฤดี
เราจะบินหนี ข้ามน้ำทะเลและแดนกว้างใหญ่
ดาวพราวดั่งฝัน กลางคืนยาวนาน รานหัวใจ
ปล่อยความเหงาไป ทอดทิ้งใจ
รักจะพาแต่เราไปสองคน
ฉันไม่ใช่คนยิ่งใหญ่ ร่ำรวยจ่ายเงินเร็วร้อนแรง
ไม่มีอำนาจใด ประหนึ่งเจ้าชาย จะสำแดง
แต่ฉันมีเพียงหัวใจ จะพาเธอผ่าน คืนนี้ไป
ฉันเป็น เพียงผู้ชาย คนนี้ที่มีใจมั่นรักเธอ
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นเพียงผู้ชายที่ใจมั่นรักเธอ
ไม่มีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝ่เฝ้ารักเธอ
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นเพียงผู้ชายที่ใจมั่นรักเธอ
ไม่มีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝ่เฝ้ารักเธอ
โอบกอดฉันไว้ หลับตาผ่อนคลาย ให้สมฤดี
เราจะบินหนี ข้ามน้ำทะเลและแดนกว้างใหญ่
ดาวพราวดั่งฝัน กลางคืนยาวนาน รานหัวใจ
ปล่อยความเหงาไป ทอดทิ้งใจ
รักจะพาแต่เราไปสองคน
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นเพียงผู้ชายที่ใจมั่นรักเธอ
ไม่มีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝ่เฝ้ารักเธอ
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นเพียงผู้ชายที่ใจมั่นรักเธอ
ไม่มีฤทธิ์เดช มีเพียงหัวใจที่ใฝ่เฝ้ารักเธอ
ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ไม่ใช่ผู้วิเศษ

        " ผู้หญิงรัก  ผู้วิเศษ ทั้งนั้นแหละ ผู้วิเศษก็คือ ผู้ชายธรรมดา ๆ ที่เมีอะไรพิเศษ และป็นคนพิเศษสำหรับเธอ"

Monday, April 18, 2011

ยังจำได้ไหม...ก๊อต จักรพันธ์ กับเพลงไทยสากล

 ยังจำได้ไหม.ให้ถูกต้องถามว่า เกิดทันไหม สมัยก่อนมาเอาดีทางลูกทุ่ง ก๊อตเคยออกอัลบั้ม เพลงไทยสากล เพราะด้วยนะ...เซิจเจอโดยบังเอิญ เลยเจออีกหลายเพลงเลย เพราะดี ก๊อตเสียงเพราะมาก ถึงเค้าจะเหมาะกับเพลงลูกทุ่งมากกว่า แต่ร้องเพลงไทยสากลก็เพราะดีออก เนื้อหาเพลงสมัยก่อนก็ความหมายดีมากเลย...

เพลง "แพ้"

วันที่เธออยู่เคียงคู่ไม่ห่าง ให้ความหวังให้กำลังใจ
ทำด้วยความเหนื่อยโดยไม่เคยหน่ายจนเมื่อเธอไปกับใครของเธอ
มีแค่คำหนึ่งเธอทิ้งไว้ให้และความหมายก็ยังคงอยู่
คนแพ้คนพ่ายคนไร้ทางสู้ มันก็ยังอยู่ๆ ในหัวใจ
  ต่อให้นานสักเพียงไหนก็ตามแต่ แต่คำว่าแพ้ๆ ก็คงอยู่
เป็นเหมือนคำสาปเป็นเหมือนคำขู่ อยู่ในใจจนตายไม่มีวันลืม (ไม่มีวันลบเลือน)
   วันที่ล่วงเลยใจที่เคยแกร่ง กลับไม่มีเรี่ยวแรงกำลังใจ
มันสูญทุกสิ่งมันสิ้นทุกอย่าง คงเหลือเพียงร่างที่ยังหายใจ


เพลงนี้ก็เพราะ เพลง "ฉันคนนี้ก็คน"
เห็นฉันเป็นตัวอะไร
จึงไม่เคยให้ความสำคัญ
เมื่อคิดจะร้างลากัน ก็ควรบอกลา
เห็นฉันเป็นตัวอะไร
เมื่อมีใจ จะคืนย้อนมา
ก็หวนมาทำพูดจา ให้ลืมวันนั้น
ฉันคนนี้ก็คน ไม่ได้เป็นแค่ตัวอะไร
คิดจะทิ้งก็ไป อยากได้คืนก็มา
ฉันคนนี้ก็คน อย่ามาหวังอะไรดีกว่า
ใจฉันมันชา รักมันหมดไปนานแล้ว

เห็นฉันเป็นตัวอะไร
จึงได้มาเมื่อเธอ ต้องการ
และแล้วพอเธอรำคาญ ก็ผลักก็ไส
ฉันคนนี้ก็คน ไม่ได้เป็นแค่ตัวอะไร
คิดจะทิ้งก็ไป อยากได้คืนก็มา
ฉันคนนี้ก็คน อย่ามาหวังอะไรดีกว่า
ใจฉันมันชา รักมันหมดไปนานแล้ว
เห็นฉันเป็นตัวอะไร



เพลงนี้ มีคนเอามCover ต่ออีกเยอะเลย    แต่จะของก๊อตนี้ละ Original เนื้อเพลงเพลงนี้น่ารักอะ
 เพลง อาการน่าเป็นห่วง
คนบางคนน่าเห็นใจ เดินเดินไปแล้วเสียหลัก
เดินไปเจอะความรักตีรวน
ทำเอาใจแทบร่วงหล่น ทำเอาคนเราเซื่องซึม
ทำเอาเกือบจะลืมชื่อตัว
ไม่รู้ ไม่เห็น ว่าเป็นวันอะไร
บางครั้ง บ้านอยู่ไหน ยังคิดตั้งนาน
จะกิน ไม่กิน จะนอนมันไม่นอน
จะดูชีพจรก็ช้าลง
อาการน่าเป็นห่วง ใครใครเขาก็เตือน
อาการน่าเป็นห่วง ใครใครเขาก็เตือน
ใจคนเราถ้าโดนตัด โดนไปทีเหมือนเมามัด
มึนกันตั้งแต่เช้ายันเย็น
คนกันเองไม่น่าหลอก ทำทีเป็นมาหยอกเอิน
ทำเอาเกือบจะเดินไม่เป็น
เพลง "ศักดิ์ศรีในใจ" เพลงนี้ปนัดดาเอามา coverใหม่
 สิ่งใดๆ ที่เคืองแค้นใจ ครั้งนั้น
เรารู้ว่ามันพ้นผ่าน
แต่เราเอง ก็ยังเย็นชาให้กัน
ทั้งที่รู้ว่ามันปวดใจ

อยากให้เราได้มาทบทวนบางสิ่ง
ว่าที่จริงเราพร้อมจะยอมอภัย
แต่ถ้าเราจะทำหมางเมินเรื่อยไป
อีกเมื่อไร เราจะเข้าใจกัน...

จากศักดิ์ศรีในใจ และความหยิ่ง
กับความรักจริงๆ ที่เรานั้นมีให้กัน
ก็อยากให้เธอชั่งใจ
ว่าอะไรที่เธอต้องการ...
รักเหมือนวันวาน หรือเลิกรา 
เพลงสุดท้ายละ เพลงนี้ก็น่ารัก

เพลง "อยู่ประจำ"

อยู่คนเดียว เดี๋ยวเดียว
ยังเหงาไปตั้งมากมาย
ถ้ามีเธอ ข้างกาย
ตอนนี้คงไม่เหงา
ไม่มีเธอ เดี๋ยวเดียว
ชีวิตมันก็ว่างเปล่า
ถึงจะเจอทุกเช้าเย็น
แต่คงไม่พอ
เพราะต้องรอต้องรออีกวัน
ถึงยังไงก็ต้องไปกลับ
คอยตั้งนาน
จนกว่าจะได้ไปหาเธอ
อยากมีเธอไว้เลย
อยู่ประจำด้วยกัน
เพราะไปกลับอย่างนั้น
ฉันยังเหงาอยู่ดี
อยู่ประจำเสียเลย
อยู่ประจำเสียที
ให้มาอยู่ ตรงนี้
ไม่มีเหงาต่อไป

อยู่กับเธอ แล้วดี
ชีวิตมันก็มีค่า
แต่จำใจ ร่ำลา
มาเหงาเพียงผู้เดียว
กลับมาคอย ละเมอ
พร่ำเพ้อนอนบนเตียงเดี่ยว
ถึงจะเจอทุกเช้าเย็น
แต่คงไม่พอ
เพราะต้องรอต้องรออีกวัน
ถึงยังไงก็ต้องไปกลับ
คอยตั้งนาน
จนกว่าจะได้ไปหาเธอ
อยากมีเธอไว้เลย
อยู่ประจำด้วยกัน
เพราะไปกลับอย่างนั้น
ฉันยังเหงาอยู่ดี
อยู่ประจำเสียเลย
อยู่ประจำเสียที
ให้มาอยู่ ตรงนี้
ไม่มีเหงาต่อไป



Saturday, April 16, 2011

--- หิมพานต์ (เนาวรัตน์ พงไพบูลย์)

   (ศิลปะบนธรรมมาสน์ แบบไทยใหญ่ -- วัดต้นลุง(จองตก) เมืองฝาง ,เชียงใหม่)

    --หิมพานต์--

                (๑)
     ประจงเส้นเป็นรูป เป็นลายเลิศ
 เล่ากำเนิด นอกฟ้า ปวงป่าเขา
วินันตก หัศกัน ตระหง่านเงา
ชะเงื้อมทอด ยอดเคล้า พระเมฆา

     การวิก อิสินธร ยุคันธร
แลสลอน หลั่นไป ในเวหา
ทะเลเมฆ เป็นระลอก กระฉอกมา
จนคงคา อากาศ กระไออวล

     มุจลินท์ ห้าแถว เนืองแนวรอบ
ที่เชิงขอบ เขาไกรลาศ  อาสน์อิศวร
ฝูงกินนร กินรี ต่างชี้ชวน
ทั้งหมู่มวล คนธรรพ์ วิชาธร

   จับระบำ รำฟ้อน ร่อนลีลาศ
มฤคมาศ ราชสีห์ และไกรสร
อโนดาต สาดสี รวีวร
หมู่มังกร ล่อแก้ว อยู่แพรวพราย

                 (ศิลปะบนธรรมมาสน์ แบบไทยใหญ่ -- วัดต้นลุง(จองตก) เมืองฝาง ,เชียงใหม่)              

                     (๒)
      เจ้าจอมผา  พระสุเมร เป็นหลักโลก
 ไม่ย้ายโยก อยู่คง ดำรงหมาย
 เหมือนร่มฟ้า อารักษ์ จำหลักราย
 ให้ส่ำสัตว์ สุขสบาย ในหิมวันต์

      จตุบท ทวิบาท อันกลาดเกลื่อน
 อยู่เป็นเพื่อน ปลอดภัย ในไพรสันต์
 พฤกษา ออกดอกผล คล้ายคนครัน
 อันหนึ่งอัน เดียวกัน อมรรตัย

      ประจงเส้น เป็นรูป เป็นลายเลิศ
  เล่ากำเนิด นอกฟ้า จอมผาใหญ่
  จากความฝัน บรรเจิด บรรจงใจ
  เป็นพงไพร หิมพานต์ ตระหง่านงาม

      มนุษย์เอ๋ย!!
  เจ้าไม่เคย สักครั้ง จักเข็ดขาม
  ทำลาย อารยยุค มาทุกยาม
  อยู่กับความ ฝันใฝ่ ที่ไม่จริง.

  (เนาวรัต์ พงษ์ไพบูลย์)

    ** กลอนสองบทนี้ พออ่านมาถึงบทสุดท้าย อ่านแล้วเหมือนอ่านนิยายหักมุมของสรจักร เออจริงด้วย ทำลายอารยุคมาทุกยาม อยู่กับความฝันใฝ่ที่ไม่จริง**


               (ศิลปะบนธรรมมาสน์ แบบไทยใหญ่ -- วัดต้นลุง(จองตก) เมืองฝาง ,เชียงใหม่)


        (ศิลปะแบบไทยใหญ่ -- วัดต้นลุง(จองตก) เมืองฝาง ,เชียงใหม่)

---Top 10 Love&Romance Movie in my heart--- 10. A Moment of Romance (1990) "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ"


        "10 อันดับหนังรักในดวงใจ" 
 อันดับ10  "A moment of Romantic" หรือในชื่อไทยคือ "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" (1990)

  หนังฮ่องกงเรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ขึ้นทำเนียบ หนังรักในดวงใจ เหตุเพราะดูครั้งแรกเล่นเอาน้ำตาซึม สงสารอาหัว(เฮียหลิว) กับ  โจโจ้ (Wu Chien Lien) จับใจ จากนั้นก็ดูซ้ำอีกไม่ต่ำกว่าสามรอบ จนปัจจุบันก็ซื้อ DVD มาเก็บไว้เป็นที่เรียบร้อย

  คิดว่า คนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบคงมีความเป็น แว้นซ์ สก้อยต์ อยู่ในจิตวิญญาณลึกๆไม่มากก็น้อย
เพราะนี่คือ ต้นตำรับ แว้นซ์-สก้อยต์ ระดับตำนานและคลาสสิก  เป็นต้นแบบให้อนุชนรุ่นหลังเลียนแบบกันมากมาย(แม้ว่าพอมาอยู่ในโลกความจริงแล้วมันจะไม่โสภานัก โดยเฉพาะเรื่องของความเท่ที่เฮียหลิวกินขาด555)   จากประสบการณ์คนที่เอาเรื่องนี้มาให้ดู คือหลานชายอายุ19ที่ประทับใจหนังเรื่องนี้มาก และตอนนี้ก็เป็นแว้นซ์เต็มตัวไปเรียบร้อย ดีที่ข้าพเจ้าไม่พลอยเป็นสก้อยซ์ไปด้วย 555

  เรื่องนี้เหมือน โรมิโอ แอนด์ จูเลียต ผสม แฮมเลต เวอร์ชั่นเอเซีย เหมือนตรงความรักของวัยหนุ่มสาวที่ไม่สมหวัง เร่าร้อน รุนแรง จนลืมสิ้นทุกสิ่งในโลกนี้ จนสุดท้ายต้องพบกับโศกนาฏกรรม กับการทรยศ หักหลัง ล้างแค้นกันไปมา จนสุดท้ายก็สิ้นชีวิตฉิบหายกันทุกคน ฉากฆ่าฟันของแก็งสเตอร์ มาเฟียฮ่องกงในเรื่องนี้โหดไม่แพ้เรื่องไหน เพราะไม่ค่อยจะมีเอาปืนมายิงกับ ปุ้งป้าง แต่เอามีดมาจิ้มๆฟันๆ กะซวก กันเสียให้เลือดท่วมจอ ซึ่งเสียงมีดในเรื่องก็ทำให้ได้อารมณ์มาก  ดูไปก็สยดสยองกันไปไม่น้อย ผิดกับฉากเลิฟซีนระหว่างอาหัวกับโจโจ้ ที่ไม่ได้เร่าร้อน ถึงเนื้อถึงหนังมาก แต่ฉากความรักความผูกพันระหว่างทั้งสองที่ค่อยๆพัฒนาไปตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงปมในใจ ในอดีตของทั้งคู่ ที่ขาดความรักความอบอุ่น ทำให้คนดูสะเทือนอารมณ์อย่างมากกับบทสรุป

  ดูเรื่องนี้แล้ว ทำให้เกิดอาการแพ้2อย่าง แพ้ความหล่อของ เฮียหลิว ซึ่งอายุและกาลเวลาไม่เคยทำร้ายเฮียหลิวได้ ยังคงหล่อเสมอต้นเสมอปลาย กับแพ้มอเตอร์ไซต์เท่ๆ แบบ BIGBIKE แบบเนี้ยๆ อีกคนที่ต้องพูดถึงคือ อู้หมงต๊ะ เห็นลุงแกในหนังฮ่องกง บ่อยมากโดยเฉพาะคู่บุญกับโจวซิงฉือ เรื่องนี้ทำให้จำภาพลุงแกกับฮัมเพลง คนเดินถนน ของพลพล ได้แจ๋มแจ๋ว 5555

 
อีกอย่างนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ เพลงฮิต4เพลงจากหนังเรื่องนี้....ซึ่งข้าพเจ้า ชอบมากอยู่สองเพลง แต่จะเอามาลงเก็บไว้ทั้งหมด เนื่องจากแต่ละเพลงก็ จะมีฉากในหนังที่ประทับใจเป็นตอนๆไปด้วย


  เพลงแรกเป็นเพลงตอนทีอาหัวเจอโจโจ้ครั้งแรก จริงๆแล้วคือต้องฆ่านางเอกทิ้ง แต่อาหัวก็ฆ่าไม่ลงเลยเป็นที่มาของเรื่องเศร้าทั้งหมด....


    เพลงที่สองเป็นตอนที่ทั้งสอง รักกันแล้วและก็ได้อยู่ด้วยกันเป็นช่วงสั้นๆ อย่างที่บอกไม่มีเลิฟซีนดุเดือด แต่ดูแล้วทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครไปด้วย   ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงชีวิตที่อาหัวมีความสุขที่สุดในชีวิต ชนิดที่เรียกว่า ถึงตายคงไม่เสียดายแล้วละ(คิดแทนเค้า)

   
     เพลงนี้แหละหนึ่งในสอง เพลงโปรดจากหนังเรื่องนี้ เวอร์ชั่นผู้ชายร้อง ซึ่งรู้สึกเฮียหลิวจะร้องเอง ฉากในมิวสิก ก็เป็นฉากระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็นตอนเฮียหลิวขับมอไซต์ไปเช็ดเลือดกำเดาไป หรือทุบกระจกร้าน เอาชุดเจ้าสาวออกมาให้นางเอกใส่
  


  เพลงสุดท้าย เพลงนี้แหละที่ชอบที่สุด เพลงที่เนื้อหาโคตรเศร้าบวกกับฉากจบที่หดหู่แบบบัดซบ
เอาคำแปลมาจากพันทิปที่เค้าบอกว่า เป็นฉบับที่ถูกต้องที่สุดนะ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9627591/A9627591.html

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาคหนึ่ง

ชื่อจีน หากฟ้ามีรัก ภาค ผู้ไล่ตามความฝัน (天若有情 , As If Heaven Has Love)

เพลง ผู้ไล่ตามความฝัน

原谅话也不讲半句此刻生命在凝聚
ไม่ต้องพูดว่ายกโทษให้หรือไม่ ด้วยชาตินี้เราสองได้อยู่ร่วมกัน

过去你曾寻过某段失去了的声音
อดีตนั้นเธอเคย ตามหาท่วงทำนองบางช่วงที่สูญเสียไป

落日远去人祈望留住青春的一刹
ตะวันลับลาไกล หากมนุษย์กลับมุ่งหวังรั้งพริบตาแห่งวัยเยาว์ไว้

风雨思念置身梦里总会有唏嘘
ภาพ วันวานพาถวิลหาเก็บไปฝันอย่างรวดร้าวอาดูร

(#) 若果他朝此生不可与你那管生命是无奈
หาก ชาตินี้ในวันหน้าฉันไม่อาจอยู่ร่วมกับเธอได้ก็ช่างความจนใจมันปะไร

过去也曾尽诉往日心里爱的声音
ที่ผ่านมาฉันเคยได้บอกกล่าวเสียงแห่งรักในใจต่อเธอ

就像隔世...人期望重拾当天的一切
พริบตาที่พรากจากผ่านไปนานดั่งคนละภพ
ฉันเฝ้าหวัง จะเก็บทุกสิ่งในวันนั้นกลับคืนมา

此世短暂转身步进萧刹了的空间
ฉันรู้แล้วว่า ชีวิตนี้สั้นนักด้วยเคยเดินผ่านความทรงจำที่สูญเสียไปนั้นมาแล้ว

只求望一望让爱火永远的高烧
วาดหวังเพียงได้เห็นเธอ
ให้ไฟเสน่หาลุกโรจน์ชั่วนิรันดร์

青春请你归来再伴我一会
วัยเยาว์เอยขอจงโปรดหวนคืนมาอยู่กับฉันอีกสักครู่


   ไม่รู้ว่า ที่สุดแล้วถ้าอาหัว หรือ โจโจ้ เลือกได้ เค้ายังจะเลือกที่จะเจอกันและได้รักกันอีกมั้ย ถ้าความรักสร้างความสุขที่สุดให้กับชีวิต มันก็สร้างทุกข์ที่สุดให้กับหัวใจได้ด้วยละนะ.............ว่าแต่ทำไมไม่มีเวอร์ชั่น "ผู้ชายข้าใครอย่าแตะ" บ้าง จะส่งอั้มกับเมย์ ไปเล่นเป็นนางเอก 555





                                                                 

                                                        
   


First Entry....with recently Songkran festival....


  Photo keep our memory alive....keep little things we 've found...people we've met...and also big events in our life...compose our mind with old memory likes poems ...our thought, our point of view were passed on len and showed on photo..

         
      สงกรานต์ 2011...ที่บ้านสวน อำเภอฝาง อาจจะแตกต่าง แต่ก็สงบเงียบและน่าจดจำ จากชีวิตคนเมืองที่อยู่กับฝุ่นควัน และห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เมื่อได้หวนกลับไปใช้ชีวิตชนบท แม้เป็นชั่วเวลาสั้นๆ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด มีชีวิตอยู่กับต้นไม้และสายลม.......บางทีก็อดคิดไม่ได้ เราดิ้นรนกันไปเพื่ออะไรและเพื่อใครกันนะ....................


บทกลอนเก่าเก็บ ที่จดไว้นานนับสิบปี แล้วก็ไม่ได้จดชื่อผู้แต่งมาด้วย กลับมาอ่านทีไร ก็เกิดความรู้สึกที่คละเคล้าไปทุกครั้ง บางบทก็ทำให้รู้สึกเศร้า บางบททำให้อิ่มใจ บางบททำให้อดเหงาลึกๆไม่ได้ ในขณะที่บางบททำให้คิดอะไรๆต่อยอดไปได้อีกมากมายเหลือคณา....แต่ละคนเมื่อได้อ่านก็คงรู้สึกแตกต่างกันออกไป ตามการตีความจากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาชีวิตของแต่ละคน.........

 

หนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งไม่กี่อย่างที่รัก เพราะไม่ใช่บุคคลประเภท out-going เสียเท่าไหร่ คือปั่นจักรยาน โดยเฉพาะถ้าได้ปั่นในสวน ในท้องนา ในบรรยากาศธรรมชาติ เวลาลมเย็นปะทะหน้า ได้เห็นวิวรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ รู้สึกได้ถึงอิสระในชีวิต บางครั้งนึกอยากจะปั่นไปข้างหน้าเรื่อยๆ....บนถนนที่ไม่มีจุดสิ้นสุด...


ท้องฟ้า มีเสน่ห์ และสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์เสมอมา โดยเฉพาะท้องฟ้ายามรุ่งสาง และยามอัสดง ทำให้เราอยากเป็นนก บินไปให้สุดขอบฟ้า แต่เราหารู้ไม่ว่าเราไม่เคยบินไปได้ไกลกว่าขอบฟ้าในหัวใจ..

ผีเสื้อ คือสีสันแห่งฤดูร้อน มีชีวิตอวดปีกสวยอยู่เพียงชั่วเวลาสั้น ก่อนจะลาจากโลกไป .....ต่างอะไรกับชีวิตคน.....ที่แสนสั้น


                               
                        นกของความคำนึงบินถึงไหน                              บินมิถึงซึ่งใดกลับไหวตก
               บินมิถึงครึ่งใจกลับไหววก                                             กลับมาสู่ ห้องรก ของเรือนร้าง
               มาสู่ห้องหมองไหม้ไร้ชีวิต                                            บางหน้าต่างปิดมิดทุกทิศข้าง
               ลมเฝ้าเคาะจากไปอย่างไหวว้าง                                   แดดเฝ้าคอยจนจางกระทั่งพลบ
                       นกของความคำนึงบินถึงไหน                               ทุกแดนถิ่นบินไปไม่รู้จบ
               ฝ่าลมแรงโบยเร้าเงาแดดลบ                                         ผ่าคืนงามสงบพบรุ่งเช้า


                       ฉันเสาะหารอยยิ้มริมหน้าต่าง                               ในทุกทุกเส้นทางอย่างรู้สึก
              นกข้างในชีวิตความคิดนึก                                             ได้กู่ร้องก้องกึกลึกและไกล
              เห็นฉันไหมในกรอบขอบหน้าต่าง                                  สองแขนกางต่างปีกกระพือไหว
              มิต้องคอยต้อยตามคอยห้ามใจ                                      ต่อทุ่งเช้าเยาว์วัย......บินไปแล้ว